เมเจอร์ฯ ควบ ทราฟฟิกคอร์นเนอร์ฯ ขยายช่องทางธุรกิจ

จากวิกิข่าว, แหล่งข่าวเสรีที่คุณร่วมเขียนได้

1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2550 

นายวิชา พูลวรลักษณ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทได้อนุมัติให้ขายหุ้นในบริษัทย่อยคือ เอ็ม พิคเจอร์ส จำกัด ให้แก่ บริษัท ทราฟฟิกคอร์นเนอร์โฮลดิ้งส์ จำนวนหุ้น 999,333 หุ้น ราคาขายหุ้นละ 320 บาท มูลค่ารวม 319.78 ล้านบาท ทำให้เข้ามาถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 99.99 หลังจากนั้นบริษัทเมเจอร์ จะเข้าไปซื้อหุ้นเพิ่มทุนในบริษัท ทราฟฟิกคอร์นเนอร์โฮลดิ้งส์ จำนวนไม่เกิน 184 ล้านหุ้น โดยอาจชำระเป็นเงินสดหรือแลกหุ้น ทำให้เมเจอร์กลายเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 51

การดำเนิกการซื้อขายครั้งนี้ ทำให้การกระจายภาพยนตร์ต่างประเทศที่ เอ็ม พิคเจอร์ส นำเข้า สามารถกระจายออกไปยังผู้ชมได้มากขึ้น ผ่านช่องทางสื่อหลากหลาย ที่ทราฟฟิกคอร์นเนอร์มีอยู่ ไม่ว่าจะเป็นทางเคเบิลทีวี ฟรีทีวี วิทยุ และโทรศัพท์มือถือ

นายวิชากล่าวว่า กระบวนต่างๆ น่าจะเสร็จประมาณต้นปี พ.ศ. 2551 โดยบริษัทยังต้องการหาธุรกิจอื่นมาเสริมมากขึ้น โดยอยู่ระหว่างการเจรจา 2 ราย แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้

นายสุรพงษ์ เตรียมชาญชัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทราฟฟิกคอร์นเนอร์โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทจะเข้าถือหุ้นร้อยละ 100 ในบริษัท เอ็ม พิคเจอร์ส จำกัด หลังจากนั้นบริษัทจะเพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 120 ล้านบาท เป็น 360 ล้านบาท โดยการออกหุ้นเพิ่มทุน 240 ล้านบาท มูลค่าหุ้นที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 1 บาท เสนอขายให้กับผู้ถือหุ้นเดิมในอัตราส่วน 1 หุ้นเดิม ต่อ 2 หุ้นใหม่ ในราคาหุ้นละ 1.79 บาท กรณีที่มีหุ้นเหลือจากผู้ถือหุ้นเดิม จะจัดสรรหุ้นไม่เกิน 184 ล้านหุ้น ชำระค่าหุ้นของบริษัท เอ็ม พิคเจอร์ส จำกัด ให้กับเมเจอร์ซีนีเพล็กซ์และผู้ถือหุ้นรายอื่นในราคาหุ้นละ 1.84 บาท

แหล่งที่มา