บุคคลที่หน้าจับตามอง
หน้าตา
ด้วยที่ได้ติดตามเรื่องปัญหา "เรื่องแฟลตดินแดง" ต้องขอยอมรับ นายตัถยา ประไพเพชร ที่เป็นบุคคลที่ต่อสู้กับ องค์กรของรัฐเพื่อที่อยู่ที่อาศัยเพื่อประชาชนเพื่อสิทธิประโยนช์ของผู้อยู่อาศัย และทราบข่าวจากหนังสือพิมพ์สยามรัฐว่า การเคหะแห่งชาติ ยังไม่จบ
ในสงครามแฟลตดินแดง
ซึ่งทางการเคหะฯใช้ไพ่ใบสุดท้าย โดยเอา ครม.ปี 43 เห็นชอบใน แผนการพัฒนาฟื้นที่และฟื้นฟูเมืองชุมชนดินแดง
แต่ปีที่ผ่านมาการเคหะฯได้ประกาศว่าอาคารแฟลตดินแดงมีสภาพรุดโทรมอ้างถล่มได้ ซึ่งเห็นได้ชัดเลยว่าการเคหะฯมีแบบแผนไม่ชัดเจน ในโครงการฯ และอีกทั้งนี้จากข่าวหนังสือพิมพ์สยามรัฐได้มีการลงว่าการเคหะฯ จะดำเนินการทุบแฟลตดินแดงในปี 52 และทั้งนี้ นายตัถยา
ประไพเพชร ก็ออกมาให้ข่าวทันทีว่าจะจัดเวทีเสวนา เรื่อง แฟลตดินแดง โดยมีองค์กรต่างๆที่เกียวข้องเข้าร่วมเสวนา เพื่อหาความชัดเจน
ในวันที่ 29 มิ.ย.51 เวลา 10.00น. ณ ลานอเนกประสงค์แฟลต 26-27 ดินแดง
และทั้งนี้ดิฉันขอชื่นชมบุคคลท่านนี้ถือเป็นนักต่อสู้ และไม่ว่าจากการที่ นายตัถยา ประไพเพชร ขึ้นเวที
พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย โดยนำเรื่องปัญหาแฟลตดินแดงขึ้นปราศัยทำให้ สังคมได้รับทราบถึงความจริง และลีลาการปราศัย
นั้นซึ่งเป็นที่น่าจับตามอง ยิ่งการนำเรื่องการ "ตอบแทนบุญคุณของแผ่นดิน" มาปราศัยนั้นทำให้ดิฉันซาบซึ้งถึงเรื่อง "บุญคุณของแผ่นดิน"
เป็นอย่างมากในการที่เขาพูดว่า "คนเราเกิดมาต้องรู้จักรสข้าวแดงแกงร้อน" ต้องรู้จักการ "ตอบแทนบุญคุณของแผ่นดิน"เกิดมาในแผ่นดินไทย
ต้องรู้จักการทำบุญ และการทำบุญคือการทำประโยนช์ ทำในสิ่งที่ดีอันเป็นประโยนช์ต่อสังคมและประเทศชาติบ้านเมือง
นี่คือสิ่งที่ นายตัถยา ประไพเพชร กล่าว ในบนเวทีพันธมิตรฯ และส่วนประวัติของเขาดิฉันพอจะทราบมาว่าเขาเป็นคน
กรุงเทพมหานคร เกิดวันที่ 29 มีนาคม 2511 อยู่แฟลตดินแดง อดีตเป็น เลขานุการชุมชนดินแดง และ รองประธานชุมชนดินแดง
เป็นที่รักในเพื่อนฝูงจำนวนมากในชุมชน และ เพื่อนๆระดับ "ราชานุกูล" เขาเป็นบุคคลที่ชอบความถูกต้องและพูดจาดูรุนแรงแต่จริงใจ
ใครผิดว่ากันไปตามผิดถูกว่ากันไปตามถูก และยังเป็นนักพัฒนาชอบช่วยเหลือผู้อื่น แต่ถ้าในตอนยังวัยรุ่นรู้มาว่าเขาเป็นนักเลงหัวไม้คนหนึ่ง
แต่ไม่ทำร้ายใครก่อน แต่ใครอย่างได้มาหาเรื่องหรือทำร้ายเพื่อนเขา ไม่ยอมเลย และเป็นคนรักที่อยู่อาศัยชาติบ้านเมืองมาก
อีกทั้งนี้ยังทราบมาว่าเขา เป็นบุคคลมีชาติตระกูล ของ เทพหัสดิน ณ อยุทธยา ทั้งนี้ดิฉันจะขอ สนุกกับการ
"ตอบแทนบุญคุณของแผ่นดิน" และจะรู้ซึ้งในรสข้าวแดงแกงร้อนของประเทศชาติ
จากดิฉัน อมาตยกุล 23/6/51