ธปท.หั่นจีดีพี ปี 50 เหลือร้อยละ 4.3-4.8 ด้านโฆษิต มั่นใจราคาน้ำมันไม่กระทบจีดีพี

จากวิกิข่าว, แหล่งข่าวเสรีที่คุณร่วมเขียนได้

19 ตุลาคม พ.ศ. 2550 

นางสุชาดา กิระกุล ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยถึงรายงานแนวโน้มเงินเฟ้อฉบับล่าสุดฉบับเดือนตุลาคม ธปท. ได้มีการปรับประมาณการตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ในปี พ.ศ. 2550 เป็นอยู่ในระดับร้อยละ 4.3-4.8 จากเดิมอยู่ที่ร้อยละ 4-5 และมีเฉลี่ยของจีดีพีที่ระดับร้อยละ 4.5 โดยหากราคาน้ำมันดูไบปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็น 75 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลในไตรมาส 4 จากที่คาดไว้ที่ระดับ 68 เหรียญสหรัฐจะทำให้ค่าเฉลี่ยของจีดีพีขยับลงมาอยู่ร้อยละ 4.4

โดยปัจจัยเสี่ยงที่ยังมีผลต่อเศรษฐกิจและเงินเฟ้อในระยะต่อไป ได้แก่ ราคาน้ำมันดูไบในตลาดโลก ค่าเงินบาทในภูมิภาค การเบิกจ่ายงบประมาณของภาครัฐ ความเชื่อมั่นของภาคเอกชน รวมทั้งปัญหาซับไพรม์ของสหรัฐฯที่หากมีความยืดเยื้อก็จะส่งผลต่อเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทยอนาคตได้

อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานในปีนี้ คาดว่าอยู่ที่ระดับร้อยละ 0.8-1.3 จากเดิมที่อยู่ในระดับร้อยละ 0.8-1.5 และอัตราเงินเฟ้อทั่วไปอยู่ที่ร้อยละ 1.8-2.3 จากเดิมอยู่ที่ร้อยละ 1.5-2.5

ส่วนจีดีพีปีหน้า ธปท. ยังคงคาดการณ์ไว้ในระดับเดิมที่ร้อยละ 4.5-6

ด้านนายโฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวถึงราคาน้ำมันที่ปรับขึ้นอย่างต่อเนื่องอยู่ขณะนี้ว่า จากการหารือกับกระทรวงพลังงานที่ติดตามปัญหาดังกล่าวอย่างใกล้ชิดเชื่อว่า สถานการณ์ภาวะราคาน้ำมันที่ปรับขึ้นอยู่ปัจจุบันนี้ จะเป็นเพียงชั่วคราวเท่านั้นซึ่งไม่ส่งผลกระทบกับจีดีพี ที่น่าจะยังเติบโตได้ถึงร้อยละ 4-4.5

แหล่งที่มา